การเลือกชนิดของถัง Jacket


      ถัง Jacket คืออะไร?


  ถังที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ นั้น หากแบ่งตามโครงสร้างจะมี 3 ประเภท คือ 1.ถังชั้นเดียว 2.ถังสองชั้น (ถังหุ้มฉนวน) และ 3.ถังสามชั้น (ถัง มี Jacket)

SINGLE WALL NON-INSULATED TANK.png 

SINGLE WALL (NON-INSULATED TANK)

 

DOUBLE WALL INSULATED TANK.png 

DOUBLE WALL (INSULATED TANK)

 

 TRIPLE WALL INSULATED TANK WITH HEATING COOLING JACKET.png

TRIPLE WALL (INSULATED TANK WITH HEATING/COOLING JACKET)

 

  โดยถังชั้นเดียวนั้นเหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มีอุณหภูมิเข้ามาเกี่ยวข้อง เช่นถังเก็บ ถังผสมทั่วไปที่ใช้ในอุณหภูมิห้อง

  แต่หากเราต้องการรักษาอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ในถัง เช่น รักษาความร้อนของน้ำร้อน หรือรักษาความเย็นของน้ำนม ถังที่ใช้ควรจะต้องมีฉนวนเพื่อรักษาอุณหภูมิไว้เพื่อลดการสูญเสียความร้อน/ความเย็นจากผลิตภัณฑ์สู่ภายนอกถัง

  แต่หากว่าเราต้องการลดหรือเพิ่มอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ในถัง หรือมีความจำเป็นต้องเก็บรักษาอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์เป็นระยะเวลานาน การเลือกใช้ถังที่มี Jacket ก็จะช่วยตอบโจทย์นี้ได้



    ทำไมถังต้องมี Jacket

  ถังที่ใช้ในกระบวนการผลิตต่างๆ มีหลายขั้นตอนที่เราต้องการลดหรือเพิ่มอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์ในถังซึ่งวิธีหนึ่งที่สะดวกคือการเลือกใช้ถังที่มี Jacket เพื่อนำ media (ตัวกลางในการแลกเปลี่ยนอุณหภูมิ เช่น ไอน้ำ น้ำร้อน น้ำเย็น Glycol) เข้าไปแลกเปลี่ยนความร้อนผ่านผนังถังเข้าไปสู่ผลิตภัณฑ์และสำหรับบางผลิตภัณฑ์ในบางครั้งเรามีความจำเป็นต้องเก็บรักษาอุณหภูมิเป็นระยะเวลานาน เช่น น้ำนมดิบที่ใช้ไม่หมดในแต่ละวันและต้องเก็บข้ามวันหรือหลายวัน ซึ่งการเก็บไว้นานหากถังเป็นถังหุ้มฉนวนเพียงอย่างเดียวเปรียบเสมือนเราเก็บนมไว้ในกระติกคือถ้าอยู่ในวันอุณหภูมิจะไม่เปลี่ยนแปลงมาก แต่หากข้ามวันอุณหภูมิของนมจะค่อยๆ สูงขึ้นตามสภาพแวดล้อม ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของนมด้วย ดังนั้นการออกแบบถังโดยเพิ่ม jacket สำหรับให้ความเย็นเพิ่มเติมจะเปรียบเสมือนเรานำนมเข้าตู้เย็นซึ่งช่วยลดอุณหภูมิของนมได้

 

    Jacket ประเภทต่างๆ

  ถัง Jacket มีหลายประเภทโดยมีความเหมาะสมแตกต่างกันไปตามการใช้งานรวมถึงงบประมาณที่มี โดยที่พบบ่อยมี 3 ประเภท ดังนี้

 

  1.Dimple Jacket

  Dimple jacket จะเป็น jacket ที่มีลักษณะเป็นแผ่นโลหะที่มีการแสตมป์เป็นรอยบุ๋ม (Dimple) โดยส่วนที่บุ๋มจะถูกเชื่อมให้ติดกับผิวถังชั้นใน และส่วนที่ไม่บุ๋มก็จะป่องขึ้นมาจากผิวถังชั้นในทำให้มีช่องว่างสำหรับให้ media ไหลผ่านเพื่อทำการแลกเปลี่ยนความร้อน

  Dimple jacket จะถูกเชื่อมเป็นระยะแบบค่อนข้างถี่ทำให้ช่วยเสริมความแข็งแรงของถังชั้นใน จึงมีจุดเด่นตรงที่น้ำหนักเบา และราคาย่อมเยาว์กว่า jacket ชนิดอื่น แต่ด้วยความที่มีแนวเชื่อมถี่ก็จะทำให้ช่องว่างที่ media จะไหลผ่านมีน้อยกว่า jacket ประเภทอื่นจึงทำ flow ของ media ได้ไม่สูงนัก แม้ว่าอาจจะไม่เหมาะนักสำหรับการแลกเปลี่ยนความร้อนที่มีความแตกต่างของอุณหภูมิสูง แต่ dimple jacket ก็เหมาะกับการเก็บรักษาอุณหภูมิ (maintain temperature) และเป็นที่นิยมใช้ทั่วไปเนื่องจากราคาคุ้มค่า

 


  2.Half pipe Jacket 

  Half pipe jacket จะเป็น jacket ที่มีลักษณะเป็น ท่อผ่านครึ่ง แล้วนำส่วนของท่อที่ผ่าแล้วมาเชื่อมให้ติดกับผิวถังชั้นใน media จะไหลผ่านในท่อเพื่อทำการแลกเปลี่ยนความร้อน

Half pipe jacket จะช่วยเสริมความแข็งแรงของถังชั้นในได้บางส่วน และด้วยการที่ media สามารถวิ่งในท่อได้อย่างสะดวก Half pipe jacket สามารถใช้ flow ของ media ได้สูงกว่า Dimple jacket ทำให้การแลกเปลี่ยนความร้อนทำได้ดีกว่า dimple ส่วนราคาก็จะสูงกว่า dimple jacket

 

  3.Chamber Jacket

  Chamber jacket จะเป็น jacket ที่มีลักษณะเป็นเหมือนถังทรงกระบอกอีกใบนึงมาสวมทับถังชั้นใน แล้วเชื่อมปิดด้านบนด้านล่างกับผิวถังชั้นใน ก็จะเกิดช่องว่างขนาดใหญ่ให้ media ไหลผ่านเพื่อทำการแลกเปลี่ยนความร้อน

  Chamber jacket มีจุดเด่นตรงที่ media สามารถวิ่งในช่องว่างระหว่างถังชั้นในและ jacket ได้อย่างสะดวกที่สุด จึงมีการแลกเปลี่ยนความร้อนได้ดีที่สุด เนื่องจาก flow ของ media ได้สูงกว่า Dimple jacket และ Chamber jacket แต่ก็จะทำให้ถังหนักและมีราคสูงกว่า jacket ประเภทอื่น ดดย Chamber jacket เหมาะสำหรับถังที่ต้องการการแลกเปลี่ยนความร้อนที่มีความแตกต่างของอุณหภูมิสูง เช่น การต้ม การheat up หรือการลดอุณหภูมิของผลิตภัณฑ์

เราสามารถลดความหนาของถังชั้นในโดยการเพิ่มตัวกั้นทิศทางการไหลในระหว่างช่องว่างของถังชั้นในและ jacket ได้ โดยเราจะเรียก jacket ประเภทนี้ว่า Spiral Jacket